เส้นทางเพลิดเพลินกับโคโตฮิระอย่างเต็มอิ่ม

ศาลเจ้าโคโตฮิระกุหรือที่รู้จักกันในชื่อ “คอนปิระซัง” ตั้งอยู่ระหว่างทางไปภูเขาคอนปิระซัง (ภูเขาโซซู)

ในตำรา “ทามาโมะชู” ในปีเอ็นโปที่ 5 (ค.ศ. 1677) และใน “ซันชูฟุชิ” ของทาเคเค็น คิกุจิ ในปีเอ็นเคียวที่ 2 (ค.ศ. 1745) ต่างกล่าวถึงการ “ประดิษฐาน ณ ภูเขาแห่งนี้เป็นเวลาเกือบ 3,000 ปี”

ในยุคกลาง ศาลเจ้าแห่งนี้ได้เปลี่ยนเป็นชื่อ คอนปิระไดกงเก็น เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากทฤษฎีของฮงจิ ซุยจาคุ และในปีเอมันที่ 1 (ค.ศ. 1165) ได้เชิญดวงวิญญาณของจักรพรรดิซูโตกุมาประดิษฐานที่นี่ ต่อมาในปีแรกของยุคเมจิ (ค.ศ. 1868) การผสมผสานระหว่างศาสนาพุทธและลัทธิชินโตได้ถูกยกเลิก ในเดือนกรกฎาคมปีเดียวกัน ศาลเจ้าแห่งนี้จึงได้รับการบูรณะให้เป็นศาลเจ้าชินโตในรูปแบบเดิม และถูกเปลี่ยนชื่อมาเป็น “ศาลเจ้าโคโตฮิระกุ” จนถึงปัจจุบัน

ศาลเจ้าโคโตฮิระกุจึงเป็นที่ประดิษฐานของเทพเจ้าหลักโอโมโนนูชิและดวงวิญญาณของจักรพรรดิซูโตกุ โอโมโนนูชิเป็นน้องชายของเทพเจ้าอะมาเทราสึโอมิกามิ เป็นบุตรชายของทาเคฮายะ ซูซาโนะ โนะ มิโกโตะ และเทพโอคุนินูชิโนะคามิ นิกิ มิตามะซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งสันติภาพในนิกายชินโตที่มีคุณธรรมและช่วยให้เกิดคุณประโยชน์มากมายทั้งด้านผลผลิตทางการเกษตร การประมงและการเดินเรือ ยารักษาโรค งานฝีมือ ฯลฯ และเป็นเทพที่ได้รับการสักการะบูชาจากผู้คนทั่วประเทศญี่ปุ่น

จุดชมวิวที่อยู่บนยอดเขาของสวนสาธารณะโคโตฮิระ สามารถมองเห็นวิหารของศาลเจ้าโคโตฮิระกุ ความยิ่งใหญ่ของที่ราบซานูกิและภูเขาอีโนะยามะ (ซานูกิฟูจิ)

โรงบ่มเหล้าสาเกแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นที่โคโตฮิระในปีแรกของปีคันเซ (ค.ศ. 1789) ในยุคเอโดะ ในจำนวนโรงบ่มเหล้าสาเก 3 โกดัง โกดังหลังที่ 2 ที่ติดกับทางเดินไปสักการะศาลเจ้าได้ถูกดัดแปลงจากโรงบ่มเหล้าผนังสีขาวที่มีมาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งกิจการ ให้เป็น “พิพิธภัณฑ์เหล้าสาเก คินเรียว โนะ ซาโตะ” เพื่อเป็นสถานที่พูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับเหล้าสาเก โดยมีการจัดแสดงอุปกรณ์ที่ใช้ผลิตเหล้าสาเกตั้งแต่สมัยโบราณและลักษณะโดยรวมของการผลิตเหล้าสาเก

“พิพิธภัณฑ์เหล้าสาเก คินเรียว โนะ ซาโตะ” เป็นสถานที่ที่ท่านจะได้พบกับประสบการณ์ใหม่ๆ กับเหล้าสาเกและวัฒนธรรมดั้งเดิมของญี่ปุ่น และหวังว่าท่านจะมาผ่อนคลายและสนุกสนานกันที่นี่

น้ำพุร้อนสำหรับแช่เท้าซึ่งเป็นมุมหนึ่งของน้ำพุร้อนโคโตฮิระ อนจุกุ ชิกิชิมะคังอยู่ติดกับทางไปศาลเจ้า เหมาะแก่การนั่งชมทางไปศาลเจ้าพร้อมกับผ่อนคลายเท้าที่เหนื่อยล้าจากการสักการะ

ทางเข้าศาลเจ้าที่ให้บรรยากาศแบบเมืองหน้าศาลเจ้า เรียงรายด้วยร้านขายของที่ระลึกและร้านอาหาร ครึกครื้นไปด้วยผู้มาสักการะจำนวนมากมาย

สะพานทอดข้ามแม่น้ำคานะคุระ หลังคาทองแดงหน้าจั่วโค้งสไตล์คาราฮาฟุ

รูปทรงโดยรวมของสะพานคล้ายกับฝักดาบจึงถูกเรียกว่าสะพานซายะบาชิ

ปัจจุบันถูกใช้สำหรับเทศกาลของศาลเจ้าโคโตฮิระกุเท่านั้น

ประภาคารซึ่งใช้เวลาในการสร้าง 6 ปีโดยชาวเมืองฮิกาชิซานุกิ เสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 1860

ถูกสร้างขึ้นเพื่อนำทางให้แก่เรือที่อยู่ในทะเลเซโตะไนไก กล่าวกันว่าแสงไฟที่ส่องจากความสูงประมาณ 27 เมตร ถูกออกแบบมาเพื่อให้แสงส่องไปถึงยังเรือที่อยู่นอกชายฝั่งมารุกาเมะ